Main Index: KJV Thai Bible

 

มัทธิว 22

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28]

22:1 พระเยซูตรัสแก่เขาเป็นคำอุปมาอีกว่า

22:2 "อาณาจักรแห่งสวรรค์เปรียบเหมือนกษัตริย์องค์หนึ่ง ซึ่งได้จัดพิธีอภิเษกมเหสีสำหรับราชโอรสของท่าน

22:3 แล้วใช้พวกผู้รับใช้ไปตามผู้ที่รับเชิญมาในการอภิเษกนั้น แต่เขาไม่ใคร่จะมา

22:4 ท่านยังใช้พวกผู้รับใช้อื่นไปอีก รับสั่งว่า `ให้บอกผู้รับเชิญนั้นว่า ดูเถิด เราได้จัดการเลี้ยงไว้แล้ว วัวและสัตว์ขุนแล้วของเราก็ฆ่าไว้เสร็จ สิ่งสารพัดก็เตรียมไว้พร้อม จงมาในพิธีอภิเษกนี้เถิด'

22:5 แต่เขาก็เพิกเฉยและไปเสีย คนหนึ่งไปไร่นาของตน อีกคนหนึ่งก็ไปทำการค้าขาย

22:6 ฝ่ายพวกนอกนั้นก็จับพวกผู้รับใช้ของท่าน ทำการอัปยศต่างๆแล้วฆ่าเสีย

22:7 แต่ครั้นกษัตริย์องค์นั้นได้ยินแล้ว ท่านก็ทรงพระพิโรธ จึงรับสั่งให้ยกกองทหารไป ปราบปรามผู้ฆ่าคนเหล่านั้น และให้เผาเมืองเขาเสีย

22:8 แล้วท่านจึงรับสั่งแก่พวกผู้รับใช้ของท่านว่า `งานสมรสก็พร้อมอยู่ แต่ผู้รับเชิญนั้นไม่สมกับงาน

22:9 เหตุฉะนั้น จงออกไปตามทางหลวง พบใครๆก็ให้เชิญมาในงานนี้'

22:10 พวกผู้รับใช้จึงออกไปเชิญคนทั้งปวงตามทางหลวงแล้วแต่จะพบ ให้มาทั้งดีและชั่วจนห้องโถงงานอภิเษกนั้นเต็มด้วยแขก

22:11 แต่เมื่อกษัตริย์องค์นั้นเสด็จทอดพระเนตรแขก ก็เห็นผู้หนึ่งมิได้สวมเสื้อสำหรับงาน

22:12 ท่านจึงรับสั่งถามเขาว่า `สหายเอ๋ย เหตุไฉนท่านจึงมาที่นี่โดยไม่สวมเสื้อสำหรับงานสมรส' ผู้นั้นก็นิ่งอยู่พูดไม่ออก

22:13 กษัตริย์จึงรับสั่งแก่พวกผู้รับใช้ว่า `จงมัดมือมัดเท้าคนนี้เอาไปทิ้งเสียที่มืดภายนอก ที่นั่นจะมีการร้องไห้และขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน'

22:14 ด้วยผู้รับเชิญก็มาก แต่ผู้ที่ทรงเลือกก็น้อย"

22:15 ขณะนั้นพวกฟาริสีไปปรึกษากันวางแผนว่า พวกเขาจะจับผิดในถ้อยคำของพระองค์ได้อย่างไร

22:16 พวกเขาจึงใช้พวกสาวกของตนกับพวกเฮโรดให้ไปทูลพระองค์ว่า "อาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้าทั้งหลายทราบอยู่ว่าท่านเป็นคนซื่อสัตย์ ได้สั่งสอนทางของพระเจ้าจริงๆ โดยมิได้เอาใจผู้ใด เพราะท่านมิได้เห็นแก่หน้าผู้ใด

22:17 เหตุฉะนั้น ขอโปรดให้พวกข้าพเจ้าทราบว่า ท่านคิดเห็นอย่างไร การที่จะส่งส่วยให้แก่ซีซาร์นั้น ถูกต้องตามพระราชบัญญัติหรือไม่"

22:18 แต่พระเยซูทรงล่วงรู้ถึงความชั่วร้ายของเขาจึงตรัสว่า "พวกหน้าซื่อใจคด เจ้าทดลองเราทำไม

22:19 จงเอาเงินที่จะเสียส่วยนั้นมาให้เราดูก่อน" เขาจึงเอาเงินตราเหรียญหนึ่งถวายพระองค์

22:20 พระองค์ตรัสถามเขาว่า "รูปและคำจารึกนี้เป็นของใคร"

22:21 เขาทูลพระองค์ว่า "ของซีซาร์" แล้วพระองค์ตรัสกับเขาว่า "เหตุฉะนั้นของของซีซาร์จงถวายแก่ซีซาร์ และของของพระเจ้าจงถวายแด่พระเจ้า"

22:22 ครั้นเขาได้ยินคำตรัสตอบของพระองค์นั้นแล้ว เขาก็ประหลาดใจ จึงละพระองค์ไว้และพากันกลับไป

22:23 ในวันนั้นมีพวกสะดูสีมาหาพระองค์ พวกนี้เป็นผู้สอนว่า การฟื้นขึ้นมาจากความตายไม่มี เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า

22:24 "อาจารย์เจ้าข้า โมเสสสั่งว่า `ถ้าผู้ใดตายยังไม่มีบุตร ก็ให้น้องชายรับพี่สะใภ้ สืบเชื้อสายของพี่ชายไว้'

22:25 ในพวกเรามีพี่น้องผู้ชายเจ็ดคน พี่หัวปีมีภรรยาแล้วก็ตายเมื่อยังไม่มีบุตร ก็ละภรรยาไว้ให้แก่น้องชาย

22:26 ฝ่ายคนที่สองที่สามก็เช่นเดียวกัน จนถึงคนที่เจ็ด

22:27 ในที่สุดหญิงนั้นก็ตายด้วย

22:28 เหตุฉะนั้นในวันที่จะฟื้นขึ้นมาจากความตาย หญิงนั้นจะเป็นภรรยาของผู้ใดในเจ็ดคนนั้น ด้วยนางได้เป็นภรรยาของชายทั้งเจ็ดคนแล้ว"

22:29 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "พวกท่านผิดแล้ว เพราะท่านไม่รู้พระคัมภีร์หรือฤทธิ์เดชของพระเจ้า

22:30 เมื่อมนุษย์ฟื้นขึ้นมาจากความตายนั้น จะไม่มีการสมรสหรือยกให้เป็นสามีภรรยากันอีก แต่จะเป็นเหมือนพวกทูตสวรรค์ของพระเจ้าในสวรรค์

22:31 แต่เรื่องคนตายกลับฟื้นนั้น ท่านทั้งหลายยังไม่ได้อ่านหรือ ซึ่งพระเจ้าได้ตรัสไว้กับพวกท่านว่า

22:32 `เราเป็นพระเจ้าของอับราฮัม เป็นพระเจ้าของอิสอัค และเป็นพระเจ้าของยาโคบ' พระเจ้ามิได้เป็นพระเจ้าของคนตาย แต่ทรงเป็นพระเจ้าของคนเป็น"

22:33 ประชาชนทั้งปวงเมื่อได้ยินก็ประหลาดใจด้วยคำสั่งสอนของพระองค์

22:34 แต่พวกฟาริสีเมื่อได้ยินว่าพระองค์ทรงกระทำให้พวกสะดูสีนิ่งอั้นอยู่ จึงประชุมกัน

22:35 มีบาเรียนผู้หนึ่งในพวกเขาทดลองถามพระองค์ว่า

22:36 "อาจารย์เจ้าข้า ในพระราชบัญญัตินั้น พระบัญญัติข้อใดสำคัญที่สุด"

22:37 พระเยซูทรงตอบเขาว่า "`จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของเจ้า ด้วยสุดจิตสุดใจของเจ้า และด้วยสิ้นสุดความคิดของเจ้า'

22:38 นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อใหญ่และข้อต้น

22:39 ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ `จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง'

22:40 พระราชบัญญัติและคำพยากรณ์ทั้งสิ้นก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้"

22:41 เมื่อพวกฟาริสียังประชุมอยู่ที่นั่น พระเยซูทรงถามพวกเขาว่า

22:42 "พวกท่านคิดอย่างไรด้วยเรื่องพระคริสต์ พระองค์ทรงเป็นเชื้อสายของผู้ใด" เขาตอบพระองค์ว่า "เป็นเชื้อสายของดาวิด"

22:43 พระองค์ตรัสถามเขาว่า "ถ้าอย่างนั้นเป็นไฉนดาวิดโดยเดชพระวิญญาณจึงได้เรียกพระองค์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า และรับสั่งว่า

22:44 `องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า จงนั่งที่ขวามือของเรา จนกว่าเราจะกระทำให้ศัตรูของท่านเป็นแท่นรองเท้าของท่าน'

22:45 ถ้าดาวิดเรียกพระองค์ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะเป็นเพียงเชื้อสายของดาวิดอย่างไรได้"

22:46 ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดอาจตอบพระองค์สักคำหนึ่ง ตั้งแต่วันนั้นมา ไม่มีใครกล้าซักถามพระองค์ต่อไป

 

Created with HTMLCompiler by BibleDatabase

Webnet77.com